10 เทคนิคจิตวิทยาเสริมเสน่ห์ในตัวคุณ

มาเสริมสร้างเสน่ห์ใน ตัวเองกันหน่อยแต่ไม่ใช่จะชวนมาทำคุณใสทำ ของเล่นของนะครับแต่จะเป็นการนำเทคนิค จิตวิทยามาใช้ในชีวิตประจำวันที่ผมคัดมา 10 เทคนิคทางจิตวิทยาที่จะช่วยให้คุณ นั้นมีเสน่ห์จนห้ามใจไม่ไหวในตอนนี้มันจะ จริงแท้หรือมาโม้กันแน่ติดตามฟังกัน ครับเทคนิคจิตวิทยาเสริมเสน่ห์เทคนิคแรก ครับหากต้องการให้ใครสักคนมาชอบลองเข้าไป พูดคุยกับเค้าในขณะที่เขากำลังอารมณ์ดี เวลาที่เราอยากทำคะแนนกับใครสักคนลองหา จังหวะดีๆในตอนที่เคคนนั้นกำลังอารมณ์ดี นะครับกำลังอารมณ์ดีเบิกบานหรือกำลังรู้ สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่องอยู่ เพราะความรู้สึกเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดและ เกี่ยวโยงมาถึงตัวเราส่งผลให้เขาคนนั้นมี ความรู้สึกในทางบวกต่อเราด้วยเวลาที่คน เราอารมณ์ดีสิ่งต่างๆรอบตัวก็ช่างดีงามไป หมดใช่ไหมครับจึงเป็นโอกาสอันเหมาะสมที่ เราจะทำคะแนนให้เขาคนนั้นรู้สึกดีกับเรา หรือแบบเราอยากจะออดออนขอให้เขาคนนั้นทำ อะไรบางอย่างให้กับเราสิ่งนี้เหมือนที่ เขาพูดกันว่าการพูดให้เป็นนั้นไม่ใช่เอา แต่พูดมากแต่ต้องรู้จักพูดให้ถูกจังหวะ แล้วจะชนะใจคนได้ได้ง่ายๆและหากเราอยาก สังเกตว่าเอคนนั้นเขากำลังอารมณ์ดีอยู่ หรือเปล่านะก็ให้ยึด 2 ข้อสำคัญต่อไปนี้ นะครับ 1 ถ้าเขากำลังอารมณ์ดีเขามักจะ กล่าวทักทายเราหรือคนื่นๆด้วยรอยยิ้มเต็ม ที่และดวงตาที่เบิกกว้างถ้าเขามาทักเรา แค่รอยยิ้มที่ริมฝีปากซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ ไม่ได้เกิดขึ้นทั่วทั้งใบหน้าหรือตาของ เขาไม่ได้ยิ้มนั่นหมายถึงรอยยิ้มที่เกิด จากการฝืนทำตามมารยาทและมักแสดงว่ากำลัง อารมณ์บูดอารมณ์ไม่ดี 2 การสบตาครับเป็น สัญญาณที่เด่นชัดในการแสดงอารมณ์เมื่อคน เราอารมณ์ดีเราก็จะมักมองสบตาคนอื่นตรงๆ และบ่อยครั้งกว่าในทางกลับกันเมื่อเรา อารมณ์ไม่ดีเราก็มักจะมองลงต่ำหรือหลีก เลี่ยงการสบตากับคนที่เรากำลังคุยด้วย นั่น เองต่อมาเทคนิคที่ 2 ครับถ้าอยากให้ใคร ชอบลองเข้าใกล้เให้มากขึ้นเข้าใกล้ในที่ นี้ก็คือการที่เราให้เวลาหรือใช้เวลากับ เคคนนั้นให้บ่อยขึ้นในเรื่องนี้ครับมีผล ทางการศึกษาที่สรุปเอาไว้ว่ายิ่งคุณมี ปฏิสัมพันธ์กับใครสักคนมากเท่าไหร่เคหรือ เธอก็จะยิ่งชอบคุณมากขึ้นเท่านั้นเอาล่ะ สิเอาล่ะสิซึ่งสิ่งนี้เองครับเป็นสิ่งที่ นักโฆษณามักใช้กับเราเช่นกันเวลาที่เขา ปล่อยโฆษณาสั้นๆเพื่อให้เรารู้สึกสนใจ หรือทำให้เราจดจำสินค้านั้นๆหรือพรรคการ มืองเมืองก็มักใช้เทคนิคนี้ตอนที่หาเสียง เลือกตั้งเช่นกันปัจจัยด้านพฤติกรรม มนุษย์ข้อนี้ครับมีพลังอย่างมากเลยที เดียวถึงขนาดที่มีผลวิจัยว่าแม้กระทั่ง ตัวอักษรที่ปรากฏอยู่ในชื่อของเรายัง สามารถทำให้เรามองว่าตัวอักษรนั้นดูน่าสน ใจมากกว่าตัวอักษรอื่นที่ไม่ได้อยู่ใน ชื่อของเราซึ่งสิ่งนี้ครับเราสามารถนำไป พัฒนาความสัมพันธ์กับใครสักคนได้จริงๆ ด้วยการเข้าใกล้หรือใช้เวลากับเขาคนนั้น ให้มากขึ้นบางครั้งเรามักทำผิดพลาดไปโดย การพยายามทำตัวไม่ว่างลึกลับหรือเหินห่าง กับใครบางคนใช่มั้ยครับคือถ้าเป็นคนที่ เราไม่อยากยุ่งมันก็โอเคแต่ถ้าเราอยากรู้ จักเาคนนั้นก็พยายามมีปฏิสัมพันธ์กับเขา ให้มากขึ้นอย่างเช่นไปกินข้าวด้วยกันบ้าง วันเกิดก็มีของขวัญเล็กๆน้อยๆไปให้จะซื้อ กาแฟที่ Amazon ก็โทรถามนิดนึงนะว่าเขาจะ เอาอะไรมยจะทำงานชิ้นนึงก็ลองไปขอคำ ปรึกษาเ้าดูในเรื่องนี้ครับผลการศึกษาก็ ได้สรุปเอาไว้ว่าเราจะเป็นมิตรกับคนที่ อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุดและมักจะชอบเคคน นั้นมากกว่าเนื่องจากได้มีปฏิสัมพันธ์กัน บ่อยครั้งนั่นเอง ครับต่อมาเทคนิคจิตวิทยาเสริมเสน่ห์ เทคนิคที่ 3 ก็คือให้ชอบเขาก่อนแล้วเขาจะ ชอบคุณด้วยเทคนิคนี้ไม่ใช่การไปอ่อยใครเา นะครับแต่เป็นการที่เราต้องทำให้บุคคล เป้าหมายของเรารู้สึกว่าเราชอบและนับถือ ในตัวเขาแล้วเขาก็จะเริ่มรู้สึกดีกับเรา มีการศึกษาจำนวนมากครับที่แสดงให้เห็น อย่างชัดเจนว่าคนเรามักจะชอบคนที่ชอบเรา มากกว่าเมื่อเรารู้ว่ามีใครบางคนรู้สึกดี กับเราก็จะส่งผลให้เรานั้นรู้สึกว่าเขา เป็นคนดีหรือเป็นคนที่น่าคบหามากขึ้นโดย ที่เราไม่รู้ตัวแบบว่าอ้าหันมาอีกทีก็ เผลอใจให้เธอไปซะ แล้วแต่ถ้าเราเจอคนที่ไม่ชอบเราเสียเลย ล่ะคะอืมเป็นคำถามที่ดีมากเลยครับใน เรื่องนี้ผลการศึกษาได้สรุปเอาไว้ว่าถ้า เค้าคนนั้นเริ่มต้นด้วยการไม่ชอบขี้หน้า เราเลยแต่เราแสดงความเคารพนับถือและชอบใน ตัวเขาเมื่อเวลาผ่านไปเคคนนั้นก็จะค่อยๆ เปลี่ยนมาชอบเราทีละน้อยเองนะครับแบบว่า น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกล่อนเลยใช่ มั้ยครับซึ่งในระยะยาวครับความรู้สึกชอบ อย่างค่อยเป็นค่อยไปมักได้ผลดีกว่าการทำ ให้ใครคนหนึ่งกลายเป็นเพื่อนของเราหรือ ให้เขาคนนั้นมาชอบเราอย่าอย่างรวดเร็วดัง นั้นครับหากเราจะตื้อก็ตื้อแบบเบาๆไม่ ต้องมากเกินไปเอาพองามนะจ๊ะอย่าแสดงออก มากเกินไปแต่ให้เราใช้วิธีแทรกซึมเข้าไป ในใจเธอโดยแค่ทำให้เขานั้นรับรู้ว่าเรา รู้สึกดีกับเขาก็พอต่อมาเทคนิคที่ 4 ครับ อยากให้เขารู้สึกดีกับเราลองคุยถึงเรื่อง ที่ชอบเหมือนกันเทคนิคนี้ผมใช้กับเพื่อน ซีเป็นประจำผมเป็นคนชอบดูหนังดูซีรีส์ชอบ หนังสือชอบเรื่องรถชอบชอบเรื่องท่อง เที่ยวบ้างเวลาเจอหน้ากันก็หยิบยกเรื่อง พวกนี้มาคุยกันมีสาระบ้างไม่มีสาระบ้างก็ ว่ากันไปในเรื่องนี้ครับมีสิ่งที่บอกว่า สิ่งที่คล้ายกันจะดึงดูดสิ่งที่คล้ายกัน เราจึงควรพูดคุยกับอีกฝ่ายในเรื่องที่เรา ทั้ง 2 คนต่างรู้สึกสนุกหรือเป็นสิ่งที่ มีเหมือนกันซึ่งหลักการนี้ครับก็ใช้ได้ กับคนที่พิ่งเจอกันใหม่ๆเช่นกันคุณฟังเคย มครับแบบเจอคนที่คุยถูกคอกันซะงั้นเพิ่ง เจอกันวันนี้เองแต่กลายเป็นเพื่อนสียำยาก ได้ในทันทีเหมือนเคยรู้จักกันมาตั้งแต่ ชาติปางก่อนความสัมพันธ์เหล่านี้ครับเกิด ขึ้นได้ด้วยมุมมองที่ว่าเธอเข้าใจฉันได้ ดีนั่นเองสิ่งนี้ครับทำให้คนที่เคยมี ประสบการณ์คล้ายกันชอบอะไรเหมือนกันรู้ สึกเป็นมิตรต่อกันได้ง่ายขึ้นในเรื่องนี้ ครับจึงสามารถสรุปความจริงข้อหนึ่งได้ว่า เราทุกคนล้วนต้องการให้คนอื่นเข้าใจและ มองเห็น เราต่อมาเทคนิคที่ 5 ครับต่อพลังบวกออกไป แล้วเขาจะชื่นชอบเราได้ไม่ยากทางที่ใคร สักคนจะรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับตัวเรามัน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราทำให้เขารู้สึกอย่าง ไรเกี่ยวกับตัวเราเองแต่สิ่งที่สร้างความ แตกต่างที่มากกว่านั้นก็คือเราทำให้เขา รู้สึกอย่างไรเมื่อเขาอยู่ใกล้เราคุณฟัง เคยสังเกตมครับว่าเราจะรู้สึกดีเมื่อได้ อยู่ใกล้ใครบางคนที่มีทัศนคติเชืงบวกเป็น คนที่มีความคิดดีเป็นคนที่ชอบกล่าวชมคน อื่นอืมีน้ำใจจเป็นคนที่ดูอบอุ่นในทางตรง กันข้ามเราเคยคิดมแค่ว่าช่างน่ารำคาญ เหลือเกินที่ต้องใช้เวลาแค่ 5 นาทีอยู่ กับคนที่ชอบนินทาคนอื่นชอบจับผิดคนอื่น ชอบอิจฉาริษยาคนอื่นอยู่เสมอคนเหล่านี้ดู เหมือนจะสูบเอาความมีชีวิตชีวาไปจากตัว เราหมดเลยดังนั้นครับเมื่อเราสามารถทำให้ ผู้อื่นรู้สึกดีกับเราได้ก็จะช่วยให้เรา นั้นเป็นที่ชื่นชอบได้ไม่ยากเลยจงส่งพลัง งานดีๆออกไปให้คนรอบตัวเรานะ [เพลง] ครับมาคุยกันต่อกับเทคนิคจิตวิทยาเสริม เสน่ห์เทคนิคที่ 6 แสดงความเข้าอกเข้าใจ คนอื่นโดยการเลียนแบบท่าทางแบบเนียนๆความ เข้าอกเข้าใจกันก่อให้เกิดความไว้ใจทำให้ เราสามารถสร้างสะพานเชื่อมจิตอืเชื่อมใจ กับใครสักคนได้อย่างที่เรารู้ว่าเมื่อคน 2 คนพูดจาในเรื่องเดียวกันก็มักจะทำให้บท สนทนานั้นเป็นไปในทางบวกและผ่อนคลายเป็น มิตรเช่นเดียวกับการที่เรามักชอบใครบางคน ที่สนใจเรื่องเดียวกันกับเราแถมเราก็ยัง รู้สึกชอบเคคนนั้นโดยไม่รู้ตัวเมื่อเขาคน นั้นทำอะไรที่เหมือนกันกับเราในเรื่องนี้ หมายความว่าถ้าเขาคนนั้นแสดงท่าทางอย่าง เดียวกันกับเราหรือใช้คำพูดวลีที่เราพูด ติดปากเหมือนกันเราก็มักจะรู้สึกว่าเาคน นั้นเป็นคนที่น่าคบหาดังนั้นครับหากเรา อยากเข้าไปนั่งในใจของใครให้เราเลียนแบบ แบบท่าทางและการเคลื่อนไหวของเขาแบบเนียน ๆตัวอย่างเช่นถ้าอีกฝ่ายสอดมือข้างหนึ่ง ไว้ในกระเป๋าก็ให้เราสอดมือไว้ในกระเป๋า ของเราบ้างและถ้าเขาใช้มือแสดงท่าทางอะไร ก็ตามหลังจากนั้นสักครู่ก็ให้เราแสดงท่า ทางแบบเดียวกันแต่ไม่ให้เป็นที่สังเกตชัด เจนจนเกินไปนะครับทำแบบเนียนๆหน่อยหรือ เราอาจจะใช้วิธีการเลียนแบบการพูดการจา โดยให้เราพยายามพูดด้วยความเร็วที่เท่า กับอีกฝ่ายอย่างเช่นถ้าเขาพูดช้าด้วย เสียงผ่อนคลายก็ให้เราพูดในจังหวะเดียว กันหรือถ้าเขาพูดแบบติดสปีดเลยก็ให้เรา พูดในจังหวะที่เร็วขึ้นด้วยเช่นกันต่อมา เทคนิคที่ 7 ครับอยากให้เขาชอบต้องปล่อย ให้เขาช่วยมีเรื่องหนึ่งที่ผมเคยอ่านจาก ผู้เขียนหนังสือ atomic habits ที่เขา เล่าถึงวัยเด็กตอนอาศัยอยู่กับแม่ของเขา เขาเห็นแม่ขอแบ่งเกลือจากเพื่อนบ้านที่ รู้ว่าติดกันทั้งๆที่บ้านของเขาเองก็มี เกลืออยู่แล้วเขาเกิดความสงสัยขึ้นมาเขา เลยถามแม่ว่าแม่ครับแม่ครับทำไมแม่ถึงไป ขอเกลือข้างบ้านล่ะครับบ้านของเราก็มี เกลืออยู่แล้วนี่นาแม่ของเขาจึงตอบไปว่า บ้านนี้น่ะเขานิสัยดีแต่ฐานะค่อนข้าง ลำบากแม่เคยช่วยเขาไปหลายครั้งแล้วรู้ว่า เขาก็คงเกรงใจเราน่ะแม่ก็เลยขอปันเกลือ จากเขาเขาจะได้รู้สึกดีกับเราว่าเขานั้น เป็นฝ่ายช่วยเราบ้างเท่านั้นเองเรื่องนี้ ครับสอดคล้องกับการศึกษาศษาธรรมชาติของ มนุษย์ที่บอกว่าเราจะชอบหรือรู้สึกดีกับ ใครบางคนมากขึ้นหลังจากที่ได้ทำอะไรดีๆ ให้กับเขาดังนั้นถ้าเราทำอะไรให้ใครเป็น กรณีพิเศษเราก็มักจะรู้สึกในทางบวกกับคนๆ นั้นด้วยบ่อยครั้งที่เรามักทำพลาดเวลาที่ เราพยายามทำให้อีกฝ่ายนั้นชอบเราโดยการทำ สิ่งดีๆให้กับเขาคนนั้นแม้ว่าเขาจะชื่นชม ในความมีน้ำใจและคิดว่าเราเป็นคนดีแต่ สิ่งนี้ครับมันก็ไม่ได้ช่วยให้เขานั้นชอบ เรามากขึ้นเลยสิ่งที่เราต้องการคือการที่ เขามีความรู้สึกดีกับเราไม่ใช่เพียงแค่ ให้เขาเชื่อว่าเราเป็นคนดีคนหนึ่งเท่า นั้นซึ่งเรื่องนี้จะสำเร็จได้เมื่ออีก ฝ่ายนั้นได้ทำสิ่งดีๆให้กับเราไม่ใช่ เมื่อเราเป็นฝ่ายทำให้กับเขาดังนั้นครับ หากมีคนอยากจะช่วยเหลือเราบ้างเขาอยาก เป็นผู้ให้แก่เราบ้างจงมอบโอกาสให้กับเขา คนนั้นเป็นผู้ให้กับเราด้วยนะ [เพลง] ครับต่อมาเทคนิคเสริมเสน่ห์อย่างที่ 8 ก็ คืออยากให้คนชื่นชมอย่าจริงจังกับตัวเอง มากเกินไปเมื่อเราต้องการให้ตัวเองดูเป็น คนที่น่าคบหาเวลาทำอะไรเล็กๆน้อยๆผิดพลาด ขึ้นมาหรือทำอะไรที่น่าอับอายก็ให้ หัวเราะไปกับมันบ้างอย่าไปพยายามเก๊กวาง มาดฟอร์มจัดทำเป็นไม่สนใจหรือแสร้งทำเป็น ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นการทำตัวตลกขบขัน เวลาทำเรื่องผิดพลาดเป็นวิธีการที่ดี เยี่ยมในการทำให้ตัวเรานนั้นเป็นที่ชื่น ชอบของทุกคนเมื่อเราแสดงให้คนอื่นเห็นว่า เราไม่ได้จริงจังกับตัวเองมากเกินไปและ สามารถยอมรับความผิดพลาดของตัวเองได้คน อื่นเขาก็จะรู้สึกใกล้ชิดกับเรามากขึ้น และอยากอยู่ใกล้เราได้หรือพูดอีกอย่าง หนึ่งก็คือการที่เราไม่เครียดกับตัวเอง มากเกินไปและยอมรับในความผิดพลาดของตัว เองเป็นการแสดงให้โลกได้เห็นว่าเราเป็นคน ที่มีความเป็นมิตรและขณะเดียวกันก็เป็นคน ที่มีความมั่น ใจต่อมาเทคนิคที่ 9 ครับเสริมเสน่ห์ด้วย ทัศนคติที่ดีทุกคนล้วนชอบคนที่มีทัศนคติ ที่ดีเชิงบวกใช่มั้ยครับมีชีวิตชีวามี ความสุขและพึงพอใจกับตัวเองแหมอยู่ใกล้ๆ แล้วมันก็รู้สึกดีจริงๆนะครับอย่างที่เรา พูดไปก่อนแล้วว่าเรามักจะชอบคนที่มีความ คล้ายคลึงกันแต่เรื่องนี้มีข้อยกเว้นครับ ก็คือไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่มองโลกว่า แย่ไปหมดหรือมองทุกอย่างเป็นลบไปหมดเจ้า อารมณ์หงุดหงิดโมโหฉุนเฉียวบ่อยๆเราทุกคน ล้วนมองหาชอบและชื่นชมผู้ที่มีมุมมองและ ทัศนคติเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตที่ดีและ มีความสุขเพราะว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่เรา ต้องการเช่นกันดังนั้นครับการฝึกเป็นคน ที่มีทัศนคติที่ดีก็เหมือนกับความมั่นใจ มันช่วยให้ตัวเรากลายเป็นแม่เหล็กดึงดูด มนุษย์ชนิดพิเศษที่มันสามารถดึงดูดผู้คน และทำให้ผู้คนนั้นชอบเราได้นั่นเองครับ และเทคนิคจิตวิทยาเสริมเสน่ห์เทคนิคที่ 10 ในตอนนี้ก็คือ สร้างพลังเสน่ห์ด้วยลีลาการเดินท่าทางการ เดินของเรานั้นสำคัญมากมันสามารถมี อิทธิพลต่อความน่าสนใจในตัวเราได้เพราะ ปกติคนเราจะมีปฏิกิริยาสนองตอบต่อผู้ที่ มีท่าเดินที่ดูมั่นใจดูกระฉับกระเฉงมาก กว่าผู้ที่เดินตัวงอคอตกเรากับเป็นคนชรา ไม่ว่าคุณผู้ฟังจะมีอายุเท่าไหร่หรือเป็น เพศใดก็ตามลองมาใส่ใจท่าทางการเดินของตัว เองดูนะครับเดินตัวตรงๆยืดอกมองไปข้าง หน้าอย่างมั่นใจกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา แค่นี้ก็ดูดีได้แล้วนะครับและถ้าหากอยาก ให้ตัวเรานั้นมีบุคลิกดีแบบไม่ต้องปั้น อะไรมากมายก็ให้เรานั้นออกกำลังเป็นประจำ ครับโดยเฉพาะการยืดเหยียดร่างกายเล่นโยคะ ก็จะทำให้ตัวเรานั้นมีความยืดหยุ่นมาก ขึ้นและช่วยเปลี่ยนแปลงอากัปกิริยาโดยรวม ทำให้บุคลิกดีขึ้นโดยเฉพาะท่าทางลีลาการ เดินเราจะดูพริ้วไหวดูมั่นใจดูมีเสน่ห์ ดึงดูดใจในสายตาของผู้อื่นได้อย่างไม่น่า เชื่อเลยที [เพลง] เดียวก็เป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆทางจิตวิทยา ครับที่เราสามารถนำไปปรับใช้เสริมเสน่ห์ ให้กับตัวเราได้คุณผู้ฟังมีวิธีไหนที่ใช้ เป็นประจำหรือมีวิธีดีๆแนะนำก็คอมเมนต์ บอกกันได้นะครับก่อนจะจบในตอนนี้ก็ขอทบ ทวนทั้ง 10 เทคนิคให้ฟังกันอีกครั้งนะ ครับเทคนิคแรกหากต้องการการให้ใครสักคนมา ชอบลองเข้าไปพูดคุยกับเาในขณะที่เขาคน นั้นกำลังอารมณ์ดีรู้จักพูดให้ถูกจังหวะ แล้วจะชนะใจคนได้ง่ายๆ 2 อยากให้ใครชอบ ลองเข้าใกล้เขาให้มากขึ้นให้เราใช้เวลา กับเขาคนนั้นให้บ่อยขึ้นแล้วเขาคนนั้นก็ จะยิ่งชอบเรามากขึ้น 3 ชอบเขาก่อนแล้วเขา จะชอบคุณด้วย 4 อยากให้เขารู้สึกดีกับเรา ลองคุยถึงเรื่องที่ชอบเหมือนกันสิ่งที่ คล้ายกันจะดึงดูดสิ่งที่คล้ายกันเราจะควร พูดคุยกับอีกฝ่ายในเรื่องที่เราทั้งสอง ต่างรู้สึกสนุกหรือเป็นสิ่งที่เหมือนกัน 5 ส่งต่อพลังบวกออกไปแล้วเขาจะชื่นชอบเรา ได้ไม่ยาก 6 แสดงความเข้าอกเข้าใจคนอื่น โดยการเลียนแบบท่าทางแบบเนียนๆ 7 อยากให้ เขาชอบต้องปล่อยให้เขาช่วยหากมีคนอยากจะ ช่วยเหลือเราบ้างเป็นผู้ให้แก่เราบ้างจง มอบโอกาสให้เขาคนนั้นเป็นผู้ให้กับเรา ด้วย 8 อยากให้คนอื่นชื่นชมอย่าจริงจัง กับตัวเองมากเกินไป 9 เสริมเสน่ห์ด้วย ทัศนคติที่ดีการฝึกเป็นคนที่มีทัศนคติที่ ดีก็เหมือนกับความมั่นใจมันช่วยให้ตัวเรา นั้นกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คนและทำให้ ผู้คนนั้นชอบเราได้และ 10 ครับสร้างพลัง เสน่ห์ด้วยลีลาการเดินเพราะปกติคนเราจะมี ปฏิกิริยาสนองตอบต่อผู้ที่มีท่าเดินที่ดู มั่นใจและดูกระฉับกระเฉงก็ลองนำนไปปรับใช้นะครับ