ดักคอพวกชอบวิจารณ์

หลายคนก็คงต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ ต้องเจอกับคนวิจารณ์ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน เพื่อนๆที่ทำงานหรือที่ใดก็ตามและไม่ว่า คำวิจารณ์นั้นจะมีเจตนาที่ดีหรือไม่ดีก็ ตามแต่การเผชิญหน้ากับคำวิจารณ์ที่ไม่ สร้างสรรค์บ่อยๆก็อาจจะทำให้เรารู้สึกท้อ แท้สูญเสียความมั่นใจได้แต่รู้ไหมว่ามัน มีเทคนิคทางจิตวิทยาง่ายๆที่เราทุกคน สามารถใช้รับมือและดักคอกับพวกที่ชอบ วิจารณ์ได้อย่างชาญฉลาดมาดูกันว่าเทคนิค ที่สามารถใช้ได้จริงเพื่อให้คุณก้าวข้าม คำวิจารณ์ที่ไม่จำเป็นและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงมันมีอะไรบ้างไปฟังกัน

ข้อ 1 การฟังอย่างมีสติและตั้งใจโดยที่ คุณไม่ตอบโต้ทันทีการฟังอย่างเงียบๆนั้น จะช่วยผู้วิจารณ์รู้สึกว่าสิ่งที่พูดอาจ จะไม่จำเป็นการเงียบจะช่วยให้เราไม่ถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งการเงียบจะช่วยให้ เขารู้ว่าเรากำลังไม่โอเคกับสิ่งที่เขา กำลังพูดการฟังอย่างตั้งใจนั้นจะช่วยให้ ผู้วิจารณ์รู้สึกว่าสิ่งที่พูดไม่ส่งผล กระทบต่อเราเราสามารถรับฟังได้โดยไม่ตอบ สนองไม่รับเอามันก็จะไม่เกิดข้อขัดแย้ง เช่นเมื่อมีคนวิจารณ์งานของคุณต่อหน้า เพียงแค่คุณเงียบและฟังอย่างสงบเขาก็จะ เริ่มรู้สึกอึดอัดและหยุดวิจารณ์ไปเอง

ข้อ2 การถามกลับอย่างอย่างสุภาพเพื่อให้เขา ทบทวนสิ่งที่เขาพูดการถามกลับทำให้ผู้ วิจารณ์นั้นต้องคิดอย่างรอบคอบก่อนที่เขา จะพูดอะไรต่อไปหรือจะตอบอะไรบางอย่างกับ คุณการตั้งคำถามเชิงสร้างสรรค์นั้นจะช่วย ให้เราดักคอคนพวกนี้ได้การถามจะทำให้ผู้ วิจารณ์ต้องทบทวนสิ่งที่ตัวเองพูดหรือ เผลอพูดเราสามารถเปลี่ยนบทสทนาให้กลาย เป็นเชิงบวกได้เช่นหากถูกวิจารณ์เรื่อง เสื้อผ้าก็ลองถามกลับว่าคุณคิดว่ามีอะไร ที่เหมาะสมกว่านี้

ข้อ 3 ตอบด้วยการ ขอบคุณเพื่อป้องกันความขัดแย้งการขอบคุณ นั้นเป็นวิธีการสำคัญที่ช่วยให้การ วิจารณ์นั้นไม่กลายเป็นเรื่องรุนแรงการ ขอบคุณจะช่วยให้ผู้วิจารณ์ไม่สามารถโจมตี เราต่อไปได้การแสดงความมีน้ำใจทำให้เราดู มีวุฒิภาวะการขอบคุณเป็นการปิดบทสนทนา เชิงลบอย่างมีชั้นเชิงเช่นเมื่อมีคน วิจารณ์เรื่องการทำงานของคุณให้ตอบว่า ขอบคุณที่แนะนำครับ้าให้เขาหมดโอกาสที่จะพูดต่อ

ข้อ 4 เปลี่ยนการวิจารณ์เป็นโอกาส ในการเรียนรู้การใช้คำวิจารณ์เป็นบทเรียน นั้นทำให้เรามีทัศนคติในเชิงบวกการมองว่า เป็นโอกาสนั้นทำให้เรารู้สึกว่าไม่โกรธ ใครการแสดงท่าทีเปิดใจนั้นทำให้เราดูน่า ชื่นชมและดูมีวุฒิภาวะด้วยการเรียนรู้จาก คำวิจารณ์อาจจะทำให้เราเติบโตได้ในบางมุม ตัวอย่างเช่นเมื่อมีคนบอกว่าคุณพูดไม่ เก่งคุณก็สามารถตอบว่าขอบคุณที่บอกนะครับ ผมจะปรับปรุงให้ดีขึ้นและแน่นอนว่าคุณก็ พิสูจน์ตัวเองว่าคุณทำมันได้

ข้อ 5 การ แสดงความเป็นมืออาชีพโดยไม่ใส่อารมณ์ของ คุณการไม่ใส่อารมณ์นั้นช่วยให้เรารับมือ ได้กับคำวิจารณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพการ แสดงออกถึงท่าทีที่สงบนิ่งทำให้เราดูเป็น มืออาชีพการไม่ใส่อารมณ์ทำให้ผู้วิจารณ์ หยุดความตั้งใจที่จะพูดต่อการสงบนิ่งจะ ช่วยให้เราไม่รู้สึกเครียดอีกอย่างอีก ฝ่ายก็จะอึดอัดไม่กล้าพูดอะไรต่อไปเช่น หากคุณวิจารณ์ในที่ประชุมให้คุณตอบโต้ ด้วยท่าทีที่สงบและไม่ใส่อารมณ์จะทำให้ ผู้วิจารณ์หมดโอกาสที่จะกล่าวโจมตี

ข้อ 6 ยิ้มและพยักหน้าโดยไม่ตอบโต้การยิ้มและ พยักหน้านั้นเป็นการสื่อสารที่ทำให้ผู้ วิจารณ์รู้สึกเอะใจไม่มั่นใจการยิ้มทำให้ ผู้วิจารย์รู้สึกไม่มั่นคงในคำพูดของตัว เองการแสดงออกถึงท่าทีที่เป็นมิตรทำให้ลด ความรุนแรงของคำวิจารณ์การไม่โต้ตอบนั้น ทำให้เรามีความสงบสุขเช่นหากมีคนวิจารณ์ ท่าทางการเดินของคุณก็เพียงแค่ยิ้มและ พยักหน้าก็พอครับไม่ต้องตอบโต้จะทำให้เขา รู้สึกอึดอัดและหยุดวิจารณ์ไปเอง

ข้อ 7 การใช้คำถามที่ทำให้เขาคิดคิดทบทวนเหตุผล ของตัวเขาเองในการที่พูดออกมาการถามกลับ อย่างสร้างสรรค์จะทำให้ผู้วิจารณ์ได้คิด อย่างรอบคอการใช้คำถามที่ลึกซึ้งจะทำให้ เขาได้ทบทวนความท้าทายความคิดโดยไม่ก้าว ร้าวทำให้เราเป็นฝ่ายได้เปรียบถ้าเรา สุภาพเราคือฝ่ายได้เปรียบไม่ใช่ว่าแสดง ออกทางสีหน้าและแววตามือเขาพูดวิจารณ์เรา ต้องแสดงความมีวุฒิภาวะอยู่เสมอการถามที่ สร้างสรรค์นั้นจะทำให้เราดูเป็นคนที่มี วุฒิภาวะน่าเคารพมีความรอบคอบเช่นหากมีคน วิจารณ์ว่าคุณใช้เวลามากไปในการทำงานก็ ถามกลับเขไปเลยว่าแล้วคุณคิดว่าสิ่งไหน สำคัญกว่ากันระหว่างคุณภาพกับความเร็ว ครับ

ข้อ 8 ให้เกียรติในความเห็นของเขาแต่ ไม่ต้องเห็นด้วยก็ได้การให้เกียรติในความ เห็นของเขาช่วยให้เรารักษาสายสัมพันธ์ที่ ดีเอาไว้ได้การแสดงออกซึ่งความเคารพจะ ช่วยลดความขัดแย้งการไม่เห็นด้วยโดยไม่ ก้าวร้าวนั้นจะทำให้เราดูสขมมากขึ้นการ ยอมรับในความแตกต่างจะทำให้เราเป็นคนที่ มีวุฒิภาวะจริงๆเช่นหากถวิจารณ์เรื่องการ ทำงานที่ช้ากว่าคนอื่นให้ตอบว่าขอบคุณที่ แชร์ความคิดเห็นนะครับผมเข้าใจมุมมองของ คุณโดยที่คุณก็ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยครับ

ข้อ 9 ใช้คำพูดที่ทำให้เขารับรู้ว่าเรามี เหตุผลในสิ่งที่เราทำอยู่เสมอการใช้คำพูด เชิงสร้างสรรค์นั้นทำให้ผู้วิจารณ์เห็น ว่าเรามีจุดยืนการมีจุดยืนนั้นทำให้เราดู มั่นคงการพูดอย่างมีเหตุผลจะช่วยลดความ ขัดแย้งการอธิบายอย่างชาญฉลาดจะทำให้เรา ดูน่าชื่นชมเช่นหากมีคนวิจารณ์ในวิธีการ ทำงานของคุณให้ตอบว่าผมก็เลือกวิธีนี้ เพราะมันใช้ได้ผลกับทีมงานของผมครับ

ข้อ 10 ให้โอกาสผู้วิจารณ์ได้พูดเต็มที่โดยไม่ ขัดจังหวะพวกเขาการให้โอกาสผู้วิจารณ์การ พูดจนจบจะทำให้เขารู้สึกว่าเราเปิดใจแต่ เราก็ไม่จำเป็นต้องรับเอาไอเดียพวกเขาคุณ ว่ามครับการไม่ขัดจังหวะทำให้เราดูน่า เคารพดูสุขุมดูมีวุฒิภาวะการฟังอย่างตั้ง ใจจะช่วยลดความขัดแย้งในเรื่องของความ สัมพันธ์ปล่อยให้เขาพูดจนจบจะทำให้เรารับ มือได้อย่างมีชั้นเชิงจะดีกว่าเช่นหากมี คนวิจารณ์การทำงานของคุณให้เขาพูดจบก่อน ก่อนที่คุณจะตอบกลับอย่างใจเย็นและสุภาพ ที่สุด

ข้อ 11 แสดงท่าทีที่เป็นบวกแม้คุณ จะถูกวิจารณ์ก็ตามการแสดงออกถึงท่าทีที่ เป็นบวกจะช่วยให้เราดูเป็นคนที่มีความสุข ท่าทีที่เป็นบวกนั้นจะทำให้ผู้วิจารณ์ไม่ รู้สึกสนุกกับการโจมตีคุณเขาจะเริ่มรู้ ว่าคุณไม่ได้ชอบอันนี้คือเราตอบสนองกลับ ด้วยความสุขนะครับการแสดงท่าทีบวกทำให้ เราดูมีความมั่นใจการมีพลังเชิงบวกนั้นทำ ให้ผู้วิจารณ์ไม่สามารถทำร้ายเราเราได้ เช่นมือถูกวิจารณ์ในการทำงานก็เพียงแค่ ยิ้มขอบคุณและจะทำให้ผู้วิจารณ์เขารู้สึก ว่าเอ๊ะทำไมไอ้นี่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรนะ เขาจะรู้สึกแปลกใจมากๆเลยครับ

ข้อ 12 ครับ ใช้ความเงียบเป็นคำตอบความเงียบนั้นคือ อาวุธที่ทรงพลังที่สุดในการดักคอกับคำ วิจารณ์การเงียบนั้นทำให้ผู้วิจารณ์ไม่ รู้ว่าเราเนี่ยรู้สึกอย่างไรเขาก็จะหยุด ไปเองครับเพราะเขาก็จะหวาดกลัวยิ่งคุณส่ง พลังความเงียบออกไปเยิ่งหวากลูหากจะพูด อะไรออกไปความเงียบทำให้เราดูสคุมและน่า เชื่อถือการไม่ตอบโต้นั้นทำให้เราดูเป็น คนฉลาด

ข้อ 13 การยืนยันตัวเองแสดงออกถึง ความมั่นใจในตัวคุณเช่นฉันเชื่อมั่นใน ความสามารถของตัวเองฉันเชื่อว่าทุกอย่าง มันจะเกิดขึ้นได้

ข้อ 14 การเข้าใจว่าคำ วิจารณ์นั้นสะท้อนถึงนิสัยใจคอจิตวิญญาณ ของผู้วิจารณ์บางครั้งคำวิจารณ์นั้นอาจจะ มาจากความไม่พอใจความอิจฉาหรือปัญหาของ ผู้วิจารณ์เองการเข้าใจข้อนี้จะทำให้คุณ ไม่เก็บคำพูดคนเหล่านี้มาใส่ใจเช่นเพื่อน ที่มักจะวิจารณ์อาจจะกำลังเผชิญหน้ากับ ปัญหาอยู่ก็ได้

ข้อ 15 ตั้งขอบเขตที่ชัด เจนหากคำวิจารณ์เริ่มเกินขอบเขตคุณก็ สามารถตั้งขอบเขตในการสื่อสารได้เช่นฉัน ขอให้เราพูดคุยกันด้วยความเคารพการตั้ง ขอบเขตแบบนี้จะช่วยปกป้องอารมณ์ความรู้ สึกของคุณได้

ข้อ 16 การไม่เก็บคำวิจารณ์ คนแบบนั้นมาใส่ใจการปล่อยวังและไม่ยึดติด นั้นเท่ากับว่าคุณเลือกจะมีความสุขใน ชีวิตเช่นเมื่อมีคนพูดจาไม่ดีคุณสามารถ เลือกที่จะไม่สนใจและโฟกัสสิ่งที่คุณมี ความสุขจะดีกว่า

ข้อ 17 การหันหีความสนใจ ไปที่จุดเด่นของตัวเองโฟกัสที่ความสำเร็จ และคุณค่าของตัวเองเช่นแม้จะมีข้อผิดพลาด แต่ฉันก็สามารถทำงานนี้ได้สำเร็จได้เป็น อย่างดีวิธีการนี้จะช่วยเสริมสร้างความ มั่นใจ

ข้อ 18 การขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์ แม้ว่าคำวิจารณ์นั้นจะไม่ถูกใจก็ตามแต่ การขอบคุณทำให้ผู้วิจารณ์เขารู้สึกดีและ อาจจะเปลี่ยนท่าทีได้เช่นขอบคุณที่แชร์ ความเห็นนะฉันก็จะนำไปพิจารณาก็แล้วกัน

ข้อ 19 การใช้ภาษากายที่เปิดเผยแสดงท่า ทางที่เป็นมิตรจะทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย มากขึ้นข้อสุดท้ายให้คุณเรียนรู้จากคำ วิจารณ์มองหาบทเรียนจากคำวิจารณ์เพื่อ พัฒนาตัวเองการเผชิญหน้ากับคำวิจารณ์ที่ ไม่จำเป็นก็อาจจะทำให้เราบันทอนจิตใจหมด กำลังใจจก็ได้และด้วยเทคนิคทางจิตวิทยา เหล่านี้คุณก็สามารถรับมือและเปลี่ยนคำ วิจารณ์ให้กลายเป็นโอกาสในการพัฒนาตัวเอง ได้และอย่าลืมว่าความมั่นใจในตัวเองนั้น และการเปิดใจรับฟังก็อาจจะเป็นหนึ่งใน กุญแจสำคัญในการรักษาสายสัมพันธ์ที่ดีและ ความสำเร็จในชีวิต